ยาเสพติด : ผู้เสพถึงตาย ผู้ขายติดคุก

คือ..ยาบ้า

ยาบ้า หรือ แอมเฟตามีน (AMPHETAMINE)

          ลักษณะทั่วไป แอมเฟตามีน หรือยาบ้า มีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาวไม่มีกลิ่น รสขม มีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาทส่วนกลาง ซึ่งมีหน้าที่เก็บความจำ ความคิด ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย และมีผลทำให้เกิดอาการติดยา และทำลายสุขภาพร่างกาย

กลุ่มผู้ใช้ที่ใช้หรือเสพแอมเฟตามีน (ยาบ้า)

          ส่วนใหญ่ได้แก่กลุ่มผู้ใช้แรงงาน การเสพสามารถกระทำได้หลายวิธี เช่น การกิน แล้วดื่มน้ำ หรือสุราตาม การดองไว้ในเครื่องดื่มบำรุงกำลัง การผสมในกาแฟหรือนำมาบดแล้วนำไปลนไฟสูดดมเป็นไอระเหย แอมเฟตามีน (ยาบ้า) เป็นยาเสพติดอันตรายที่ก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อตัวผู้เสพและสังคมส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก

อาการของผู้เสพติดแอมเฟตามีน (ยาบ้า)

          ฤทธิ์ของแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จะส่งผลกระทบต่อผู้เสพ ก่อให้เกิดอาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังต่อไปนี้คือ

                    อาการทางกาย  ผู้เสพแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ประมาณ 20-30 กรัม ต่อวัน จะมีอาการเบื่ออาหาร พูดมาก ตื่นเต้นง่าย มือสั่น คลื่นไส้ ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็วและแรง ไม่รู้สึกง่วง เหงื่อออกมาก กลิ่นตัวแรง ปากและจมูกแห้ง หน้ามัน ทำงานได้นานเกินกว่าปกติ รูม่านตาเบิกกว้าง สูบบุหรี่จัด ท้องเสีย มีอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย

                    อาการทางจิต แอมเฟตามีน (ยาบ้า) เป็นยาที่ถูกดูดซึมได้ง่าย การเสพจึงต้องเพิ่มขนาดเสมอๆ หากเสพติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดอาการทางจิต เป็นโรคหวาดระแวง วิตกกังวล มีอาการประสาทหลอน บางราย เพ้อคลุ้มคลั่งเห็นภาพหลอนต่างๆ นาๆ อาจทำร้ายตนเองและผู้อื่นให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ หากใช้ยาบ้าในปริมาณมากอาจเสียชีวิตด้วยอาการของโรคหัวใจวาย หรือหลอดโลหิตในสมองแตก มีโอกาสเสียงสูงต่อการเป็นโรคตับอักเสบ ไตไม่ทำงาน โรคเกี่ยวกับปอดและเป็นโรคติดเชื้ออื่นๆ ได้ง่าย

           ปัจจุบัน  ยาบ้าถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เช่นเดียวกับเฮโรอีน ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติด

ยาอี

อีเฟตีน (EPHEDINE) หรือยาอี ลักษณะทั่วไป

          เป็นผงละเอียดสีขาว เมื่อนำมาผลิตเป็นเม็ดยาจะมีหลายลักษณะ เช่น เป็นเม็ดกลมแบน ชนิดน้ำบรรจุหลอด และชนิดแคปซูล มีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เช่นเดียวกับแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จัดเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 ซึ่งจากเดิม อีเฟดีน จัดเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 3 แต่เนื่องจากได้มีการนำอีเฟดีน มาใช้ในทางที่ผิดมีการนำมาเสพแทนแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ก่อให้เกิดปัญหาต่อชีวิตและทรัพย์สินส่วนรวมอย่างมากมาย จึงได้มีการแก้ไขปัญหากฏหมายที่เกี่ยวข้องกับวัตถุที่ออกฤทธิ์จิตและประสาท และจัดให้อีเฟดีนทั้งชนิดน้ำ และทุกตำรับยาที่มีส่วนผสมของอีเฟดีน เป็นวัตถุที่ออกฤทธิ๋ต่อจิตและประสาทประเภท 2 กำหนดควบคุมและมีมาตรการลงโทษ เช่นเดียวกับแอมเฟตามีน (ยาบ้า) อีเฟดีน นิยมเรียกกันทั่วไปว่า ยาอี ยาเอฟหรือยาอี๊ มักจะแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน การเสพจะใช้ผสมกับน้ำดื่ม หรือกินพร้อมกับดื่มน้ำตาม

อาการของผู้เสพติด อีเฟดีน (ยาอี)

           ผู้เสพยาอีเฟดีน (ยาอี) จะมีอาการคล้ายคลึงเช่นเดียวกับผู้เสพแอมเฟตามีน (ยาบ้า) กล่าวคือฤทธิ์ของอีเฟดีน (ยาอี) จะกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ผู้เสพสามารถทำงานได้นาน มีอาการตื่นเต้นง่าย ใจสั่น ไม่รู้สึกง่วงนอน เหงื่อออกมาก ความดันโลหิตสูง ฯลฯ หากเสพติดต่อกันเป็นเวลานานจะเกิดอาการประสาทหลอนเป็นโรคจิต บางรายที่เสพยาเข้าสู่ร่างกายเกินขนาดจะเกิดอาการใจสั่น มือเท้าเกร็งและช้า ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หายใจลำบากคลื่นไส้อาเจียน ชักและหมดสติ ถึงขั้นเสียชีวิตได้ทันที