การหมุนเวียนของพลังในร่างกายในรอบ 24 ชั่วโมง นาฬิกาชีวิต : The clock of life

1. สามทุ่ม ถึง ห้าทุ่ม คือ พลังงานรวม (9:00-11:00 PM) center energy,need go to bed since 9:00 PM for complete body พลังงานของร่ายกายเราจะสร้างในช่วงนี้เท่านั้น ฉะนั้นเราจะต้องพักผ่อนโดยการเข้านอนเวลาสามทุ่ม ถ้าหากไม่เข้านอนช่วงเวลาดังกล่าว ร่างกายจะมีพลังงานเพื่อช่วยเหลือกระบวนการให้ร่างกายทำการสะสมพลังงานได้ไม่เต็มที่ ผลคือจะทำให้ร่างกายมีพลังงานสะสมไม่เพียงพอในการฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ ให้สะอาดแข็งแรงสำหรับวันต่อไป

2. ห้าทุ่ม ถึง ตีหนึ่ง คือถุงน้ำดี (11:00 PM -01:00 AM) the gall bladder work,if you no go bed since 11:00 PM fat will fall to body ex. eyes, stomach get fat พลังงานที่สร้างขึ้นในช่วงสองชั่วโมงนี้ ร่างกายจะนำไปล้างถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีแข็งแรง ในการย่อยไขมันที่จะไปเปลี่ยนรูปเป็นฮอร์โมน เปลี่ยนรูปเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น ไขสมอง น้ำหล่อเลี้ยงในร่างกายทั้งหมด และจะย่อยไขมันห้าทุ่มถึงตีหนึ่งเท่านั้น ถ้าเราไม่พักผ่อนในช่วงนี้ ไขมันพวกนี้จะตกตะกอนอยู่ตามตัวเราเช่นกัน เป็นถุงไขมันใต้ตา มีพุง สมองเลอะเลือนง่าย ปวดไหล่ และตรงลำไส้จะปวดท้องง่าย ท้องเสีย หรือท้องผูกง่าย

3. ตีหนึ่ง ถึง ตีสาม คือ ตับ (01:00-03:00 AM) liver work you need go bed for liver work completely,if not - many disease  will occur to you พลังงานนี้จะไปจัดการกับตับ หน้าที่ของตับ คือสะสมอาหารสำรองให้กับร่างกาย และกำจัดของเสียของร่างกาย ตลอดจนผลิตน้ำดี และส่งไปเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี ถ้าช่วงนี้เรายังไม่หลับนอน ยังทำงานอยู่ร่างกายจะสูญเสียพลังงานส่วนที่สะสมไว้ ตับจะอ่อนแอ การสะสมพลังงานสำรองลดลง การผลิตน้ำดีลดลง และจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับอ่อน ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้การผลิตฮอร์โมนอินซูลินลดลงด้วย ผลที่ตามมาก็คือโรคภัยไข้เจ็บ คนที่ไม่พักผ่อนในช่วงนี้ จะทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตแปนปรวน โรคเกาต์ โรครูมาตอยส์ รูมาติซั่ม อาการภูมิบกพร่องต่างๆ เบาหวาน หัวใจ กระดูกเสื่อม แต่ถ้าพักผ่อนระหว่างตีหนึ่งถึงตีสาม จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าวได้ จากตับพลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ปอดในช่วงเวลาตีสามถึงตีห้า

4. ตีสาม ถึง ตีห้า คือ ปอด (03:00-05:00 AM) Lungs work, if strong lungs you will good sleep but if bad lungs you will get up this time for cough and can't breath well ถ้าปอดแข็งแรงคุณจะหลับสนิทในช่วงนี้ แต่ถ้าคุณเป็นโรคปอด หรือสูบบุหรี่ จะรู้สึกไม่สบายตัว เราจะถูกปลุกให้ตื่นช่วงนี้ จะไอและหายใจขัด

5. ตีห้า ถึง เจ็ดโมงเช้า คือ ลำไส้ใหญ่ (05:00-07:00 AM) large intestine work for defecating if you not defecate that mean excrement will soft to your blood system คือช่วงที่เราจะต้องถ่ายอุจจาระ ถ้าไม่ถ่ายหลังจากนี้เป็นต้นไป เราจะกินอุจจาระตัวเอง มันจะดูดซึมเข้าสู่ระบบเลือด เพราะของเสียจะต้องเอาทิ้งให้หมดก่อนเจ็ดโมงเช้า ไม่งั้นร่างกายจะพาของเสียไปหล่อเลี้ยงร่างกายเราอยู่ดี นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า เกิดไขมันที่เสียๆ

6. เจ็ดโมงเช้า ถึง เก้าโมงเช้า คือ กระเพราะอาหาร (07:00-09:00 AM) stomach work you need have breakfast this time because stomach will digest well, if not you will get stomach disease and heart disease easily เราต้องรับประทานอาหารเช้า เพราะกระเพราะอาหารเราจะย่อยได้สูงสุดช่วงเวลานี้เท่านั้น ช่วงอื่นๆ จะทำได้น้อยกว่า ช่วงนี้กระเพราะอาหารของเราต้องการอาหาร และหลั่งน้ำย่อยมากที่สุด ฉะนั้นพวกที่ไม่กินอาหารเช้า โรคกระเพราะจะถามหา ที่สำคัญจะเกิดโรคหัวใจด้วย เพราะมันไม่ได้สารอาหารสำหรับทุกอวัยวะเพื่อกลับไปสร้างพลังงานรวม

7. เก้าโมงเช้า ถึง สิบเอ็ดโมง คือ ม้าม (09:00-11:00 AM) spleen work ,will keep back up energy for use if you no eat you feel weak ม้ามจะเริ่มเก็บพลังงานสำรอง เก็บสารอาหาร เก็บทุกอย่างที่กระเพราะอาหารย่อมเต็มที่ และถ้าเราไม่กินเราจะต้องดึงพลังงานสำรองออกมาใช้ ในขณะที่ดึงพลังงานสำรองออกมาใช้ พลังงานรวมเราจะหายไป เราจะอ่อนเพลีย จะเริ่มไม่มีแรง

8. สิบเอ็ดโมง ถึง บ่ายโมง คือ หัวใจ (11:00 AM -01:00 PM) heart work,you will get bad heart disease if you no have nutrient therefore heart failure always occur before 12:00 AM or after lunch. Everyone who no have breakfast can get heart attack easily too  หัวใจเราจะแย่ถ้าไม่มีสารอาหาร ฉะนั้นคนที่เป็นหัวใจวายมักจะเกิดก่อนก่อนเที่ยง หรือหลังจากรับประทานอาหารเที่ยง คนที่ไม่ทานอาหารเช้าเป็นประจำจะฮาร์ทแอทแท็คง่าย

9. บ่ายโมง ถึง บ่ายสามโมง คือลำไส้เล็ก (01:00-03:00 PM) small intestine work, if you no have breakfast - small intestine digest nothing mean digest itself make small intestine weak because small intestine need change energy to another for body ถ้าสมมติเราไม่กินอาหารเช้า อาหารที่รอย่อยในลำไส้เล็กก็ไม่มี เราก็ย่อยลำไส้เล็ก ทำให้ลำไส้เล็กเริ่มอ่อนแอ เพราะลำไส้เล็กจะต้องเปลี่ยนรูป ทั้งคาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ ทุกอย่างตรงนั้นเปลี่ยนพลังงานทั้งหมด บทวิเคราห์..จะเห็นว่าอาหารเช้าเป็นอาหารมื้อสำคัญที่สุดต่อร่างกายมนุษย์ และในทางตรงกันข้ามอาหารเช้าเป็นมื้อที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเอาใจใส่กันแค่รับประทานกาแฟ ได้ผงคาเฟอีนเข้าไปแล้วก็บอกว่าทานอาหารเช้าแล้ว กลับไปเอาใจใส่อาหารในช่วงมื้อเย็นกันเป็นมื้อใหญ่ ทานเสร็จแล้วก็นอนแล้วก็ลงพุง ทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาโดยง่าย ในขณะเดียวกันในบางกลุ่มคนก็รับประทานอาหารเช้าในเวลาของมื้อเที่ยง ก็ฝากไว้ด้วยนะคะร่างกายเราเป็นของเราให้รางวัลกับเขาบ้าง อย่าไปขี้โกงเขา ขี้โกงตัวเอง เพราะเขาต้องอยู่กับเราตลอดชีวิต ด้วยรักและห่วงใย

10. บ่ายสามโมง ถึง ห้าโมงเย็น คือ กระเพราะปัสสาวะ (03:00-05:00 PM) bladder work hard, get excrement from small intestine เมื่อลำไส้เล็กเปลี่ยนรูปมากที่สุดเราก็เริ่มมีของเสีย ช่วงเวลานี้กระเพราะปัสสาวะจะทำงานมากที่สุด และไม่ควรกลั้นปัสสาวะ

11. ห้าโมงเย็น ถึง หนึ่งทุ่ม คือไต (05:00-07:00 PM) kidney work, this time you shouldn't exercise because kidney work hard and you should exercise 05:00-07:00 AM for intestine move. ช่วงนี้เราไม่ควรออกกำลังกาย เพราะไตทำงานหนักอยู่แล้ว เราควรออกกำลังกายช่วงตีห้า ถึง เจ็ดโมงเช้า เพื่อให้ลำไส้ขยับตัว และเพิ่มศักยภาพในการขับเคลื่อนของเสียให้กับเขา ถ้าออกกำลังกายช่วงเย็นจะทำให้ไตวายง่าย เวียนหัวง่าย ตาพร่าง่าย ปวดศีรษะง่าย บทวิเคราะห์... แต่ส่วนมากในปัจจุบันเราจะเห็นว่าคนส่วนใหญ่ออกกำลังกายช่วงเย็นกันมาก ฉะนั้นอย่าสงสัยเลยว่าทำไมแนวโน้มการเสียชีวิตจากโรคต่างๆ จึงมีมากขึ้นทั้งที่ออกกำลังกาย เพราะท่านออกกำลังกายผิดเวลานั่นเอง เมื่อท่านทราบแล้วก็ไปบอกต่อกันด้วยนะคะ การออกกำลังกายช่วงเช้านับเป็นเรื่องดีมาก พอแค่ให้เหงื่อออกก็พอไม่ต้องถึงขนาดเสื้อเปียกโชกหรอกค่ะ ด้วยรักและห่วงใย

12. หนึ่งทุ่ม ถึง สามทุ่ม คือกล้ามเนื้อหัวใจ (07:00-09:00 PM) cardiac muscle work, you need rest this time for cardiac muscle work well. หลังจากหนึ่งทุ่มเราต้องพักผ่อนแล้วเพราะกล้ามเนื้อหัวใจจะทำงาน ถ้าเราไม่เริ่มพักเลือดเราจะข้น พอเลือดข้นแทนที่กล้ามเนื้อหัวใจจะทำงานช้าลงกลับต้องทำงานหนักงานขึ้น เขาจะไม่ได้ชะล้างตัวเอง เราจะเป็นโรคหัวใจโต หลังจากช่วงเวลานี้แล้ว ร่างกายจะเตรียมพักผ่อนและสะสมพลังงานรวมอีกครั้ง

สรุป : รับประทานอาหารเช้าสม่ำเสมอ ทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ให้ถูกเวลา เพื่อร่างกายที่แข็งแรงของท่านต่อไป

Conclude : always have breakfast, make routine in the right time for your health forever

มา ปมาทมนุยุญฺเชถ - อย่ามัวประมาทอยู่เลย  : No be careless please be careful

Source : เสียงจากสุขาวดี 74.

Translate to English : Kanyapak McManus

Design by Kanyapak McManus : CSJOY.COM
CSJOY.COM WEBBOARD-กระดานสนทนา